พร้อมหรือยังที่จะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ (เอเสเคียล 3:4-27)
แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงไปยังพงศ์พันธุ์อิสราเอล และกล่าวถ้อยคำของเราแก่พวกเขา เพราะเราไม่ได้ใช้เจ้าไปหาชนชาติที่พูดภาษาต่างด้าวหรือภาษาที่เข้าใจยาก แต่ไปหาพงศ์พันธุ์อิสราเอล ไม่ใช่ให้ไปหาชนชาติจำนวนมากที่พูดภาษาต่างด้าวและเข้าใจยาก ซึ่งเป็นภาษาที่เจ้าไม่เข้าใจ ที่จริงถ้าเราใช้เจ้าไปหาคนพวกนั้น พวกเขาก็จะฟังเจ้า แต่พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่ยอมฟังเจ้า เพราะเขาไม่ยอมฟังเรา เพราะว่าพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดเป็นคนหัวแข็งและใจดื้อด้าน ดูสิ เราได้ทำให้หน้าของเจ้าด้านเหมือนพวกเขา และทำให้หัวของเจ้าแข็งเช่นพวกเขา เราได้ทำให้หัวของเจ้าแข็งแกร่งเหมือนเพชร แข็งยิ่งกว่าหินเหล็กไฟ อย่ากลัวพวกเขาเลย อย่าท้อถอยด้วยสีหน้าของเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่มักกบฏ” พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงรับถ้อยคำทั้งหมดของเราที่พูดกับเจ้าไว้ในใจของเจ้า และจงฟังด้วยหูของเจ้า จงไปเถอะ เจ้าจงไปหาพวกที่เป็นเชลยคือชนชาติของเจ้านั้น จงพูดกับเขาทั้งหลาย และกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้’ ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือปฏิเสธก็ตาม” — 3:4-11
- ความรับผิดชอบ: ยามเฝ้าเมือมีหน้าที่เตือนประชาชนว่าข้าศึกจะมาโจมตีฉันใด เอเสเคียลก็ต้องเตือนอิสราเอลเรื่องพระเจ้าจะลงโทษฉันนั้น ถ้าเตือนแล้วเขาไม่ฟังก็โทษใครไม่ได้ พวกเขาต้องรับผิดชอบถึงตายเอง แต่ถ้าเอเสเคียลไม่เตือนและพวกเขาตาย เอเสเคียลก็ต้องรับผิดชอบ
- ทำตามพระบัญชา: ก่อนเริ่มการประกาศ พระเจ้าสำแดงให้ท่านรู้ว่า ท่านต้องประกาศเฉพาะเวลาที่พระองค์ให้ประกาศเท่านั้น และท่านจะไม่ไปไหนและไม่ประกาศสิ่งใด เว้นไว้แต่ที่พระองค์ทรงสั่งเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าข้อความของพระองค์จะไม่ตกหล่นหรือถูกเพิ่มเติมใดๆ อีก
- บทเรียนที่ได้รับ: ก้าวแรกในการเป็นคนของพระเจ้า คือการยอมรับว่าเราต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ และดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อฟัง แล้วเราจึงจะเห็นจริงๆ ว่า พระเจ้าทรงทำกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์ได้มากมายในชีวิตเรา
Credit :