ปรนนิบัติ
“ปรนนิบัติ”
“ด้วยว่าใครเป็นใหญ่กว่าผู้ที่นั่งโต๊ะหรือผู้เดินโต๊ะ ผู้ที่นั่งโต๊ะมิใช่หรือ แต่ว่าเราอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลายเหมือนผู้รับใช้” (ลูกา 22:27)
ในพระคัมภีร์กิตติคุณ 4 เล่ม มีที่เดียวเท่านั้น ที่พูดถึงเรื่องการล้างเท้าของพระเยซูที่ได้ปรนนิบัติสาวกของพระองค์ ปรากฏในพระธรรมยอห์น 13:1-20 อันที่จริงพระเยซูไม่ต้องล้างเท้าสาวกก็ได้ แต่พระองค์ก็ทำ (ยอห์น 13:5) พระองค์ทรงทำหน้าที่ของผู้นำที่เป็นผู้รับใช้ พระเยซูทรงเลือกที่จะปรนนิบัติพวกเขา คริสเตียนเราเลือกที่จะเป็นผู้ปรนนิบัติมากกว่าที่จะเป็นผู้ควบคุมหรือครอบครอง
ชาวยิวรู้ดี เรื่องธรรมเนียมการล้างเท้า ถ้าหากมีแขกมาเยี่ยมบ้าน เจ้าของบ้านจะล้างเท้าให้แขก เพราะเท้าสกปรกและมีกลิ่นเหม็น เพราะชาวยิวนั่งเอนกายยกขาขึ้นที่นั่งแล้วรับประทานอาหารร่วมกัน เรื่องธรรมเนียมการล้างเท้านั้น สาวกทุกคนรู้ดี แต่พระเยซูตรัสว่า ท่านไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำ (ยอห์น 13:7, 12) เพราะว่าเป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ
นักวิชาการให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า พระธรรมยอห์น ตั้งแต่บทที่ 1 ถึงบทที่ 12 เป็นเรื่องของการบังเกิดใหม่ หรืออาบน้ำ ผู้เชื่อจะอาบน้ำครั้งเดียวตลอดชีวิตเขา (อาบน้ำ คือ การบังเกิดใหม่) ส่วนยอห์นบทที่ 13 เป็นเรื่องของการล้างใจ จากความคิดที่ผิดบาปฝ่ายเนื้อหนัง การรับการล้างเท้าไม่ใช่เพื่อแสดงการถ่อมใจ แต่เพื่อให้เราได้มีส่วนในพระคริสต์ (อ่านข้อที่ 8 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้”)
ดังนั้น การล้างเท้า คือ การล้างใจ เพราะเมื่อเราอาบน้ำสะอาดทั้งตัวแล้ว รอดแล้ว แต่จิตใจเราจะคิดบาป ทำบาป ปักใจไปที่ฝ่ายเนื้อหนังเป็นระยะๆ และถ้าหากเราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะมีส่วนในพระกายของพระเยซูไม่ได้ และเมื่อเราเข้ามีส่วนแล้ว เราต้องเลียนแบบการเป็นผู้ปรนนิบัติของพระเยซูด้วย
โลกทุกวันนี้ย้ำให้เราเป็น “คนสำคัญ” เราไขว่คว้าอยากได้งาน ที่เงินเดือนดีๆ มีตำแหน่งสูงๆ อยากเป็นผู้นำสูงสุดในคริสตจักร อยากบอกว่า ไม่ว่าเราจะมีตำแหน่งอะไร เราเรียนรู้ เรื่องการปรนนิบัติผู้อื่นจากองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเราได้
คำอธิษฐาน “พระเจ้าที่รัก ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์มิได้มาเพื่อจะรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติ บางครั้งข้าพระองค์ก็ไม่ได้คิดถึงผู้อื่น ข้าพระองค์ปรารถนาจะเป็นเหมือนพระองค์ ขอโปรดประทานหัวใจเหมือนอย่างพระองค์ด้วยเถิด อาเมน”
Leave a Reply