เราจะเข้าใจและเข้าถึงอนุชน ลูกหลานของเราได้อย่างไร?

ไม่นานมานี้ผมได้อ่านบทความที่เขียนโดย ศจ.ริค วอร์เรน เกี่ยวกับศิษยาภิบาลอนุชนว่า ควรจะสร้างความสัมพันธ์กับอนุชนอย่างไร ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องในคริสตจักร เช่นเดียวกัน ที่ทุกๆ คน จะเข้าหาวัยรุ่นในยุคนี้ได้ด้วยความรักและด้วยวิธีที่พวกเขาจะรู้สึกได้รับความรักและเข้าใจ

ศจ.ริค วอร์เรน ย้ำว่าวัยรุ่นไม่ใช่อนาคตของคริสตจักรเท่านั้น พวกเขาคือปัจจุบันของคริสตจักร เราจะนำส่วนที่ดีที่สุดของพวกเขาออกมา เพื่อให้พวกเขามีอิทธิพลในชุมชนของพระคริสต์ และเป็นแสงสว่างได้อย่างไร ผมจะสรุปคำแนะนำของท่าน ซึ่งได้ให้แนวทางไว้4 อย่าง ดังนี้

1. ยอมรับเอกลักษณ์ความแตกต่างของพวกเขา

พวกเขาทุกคนต่างกัน ขนาดต่างกัน ของประทานต่างกัน พื้นหลังชีวิตต่างกัน และพระเจ้าจะทรงใช้พวกเขาในทางที่ต่างกัน พระเจ้าทรงให้คุณค่ากับความหลากหลายและงานของพระองค์ก็หลากหลาย งานของผู้ที่เลี้ยงดูพวกเขา คือการให้พวกเขาค้นพบและเติบโตในเอกลักษณ์ของตน วัยรุ่นเองถูกเปรียบเทียบและบอกให้เหมือนคนอื่นมาก เสียงของเราควรจะเป็นเสียงที่แตกต่าง

2. สนับสนุน หนุนใจ ให้กำลังใจ ชื่นชม พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ พวกเขาได้ยินคำพูดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองอยู่ตลอด ไม่ว่าจะทางครูบ้าง เพื่อนบ้าง หรือแม้แต่ในครอบครัว เราควรเป็นเสียงที่แตกต่างในชีวิตของพวกเขา การหนุนใจและให้กำลังใจ ทำให้ชีวิตของอนุชน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้อย่างมาก

3. เชื่อใจพวกเขา โดยปล่อยให้พวกเขาได้รับผิดชอบ ความเชื่อใจ เป็นสิ่งที่ทำให้อนุชนสามารถนำส่วนที่ดีที่สุดของพวกเขาออกมาได้ความมั่นใจที่เกิดขึ้น ทำให้พวกเขามีอิสระที่จะเสี่ยง ผิดพลาด และเติบโต พวกเขาไม่สามารถเรียนรู้ที่จะมีอิทธิพล กับโลกนี้เพื่อพระเยซูได้ถ้าพวกเขาได้เรียนแค่จากในตำรา พวกเขาเรียนรู้ได้ด้วยการลงมือทำ เริ่มต้นที่สิ่งเล็กๆ หาโอกาสให้พวกเขาได้รับใช้

4. รักพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข

นี่อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการนำส่วนที่ดีที่สุดของพวกเขาออกมา แต่มันก็เป็นส่วนที่ทำได้ยากที่สุดเช่นเดียวกัน พวกเขาท้าทายความรักของเราอยู่ตลอด ในการเลี้ยงดูพวกเขา เราอาจจะต้องเจ็บปวด ผิดหวัง เราอาจจะพยายามทุ่มเทให้พวกเขาวันนี้และพวกเขาก็ผิดพลาดวันพรุ่งนี้

เราต้องไม่หมดหวังกับวัยรุ่น เราทุกคนต่างก็ต้องการโอกาสที่สองในชีวิตของเราจากคนอื่นๆ แต่พวกเขาอาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนี้กับใครเลยในชีวิตก็ได้พวกเขาต้องการความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และการยอมรับจากคนรอบข้าง เมื่อเขาเห็นความห่วงใยจากเรา หรือคนอื่นๆ ในเวลาที่พวกเขาพลาดไป พวกเขากำลังเห็นภาพรางๆ ว่าพระเจ้าทรงเป็นใคร

ผมหวังว่าพี่น้องที่ได้อ่าน และได้มีส่วนในชีวิตของอนุชน ไม่ว่าจะในครอบครัว ในคริสตจักร หรือในที่ทำงานของทุกท่าน จะได้มีโอกาสเรียนรู้ที่จะรักและเข้าใจ เชื่อใจพวกเขา ขอพระเจ้าทรงเป็นกำลังให้กับพี่น้องทุกท่าน ในการรักพวกเขาอย่างที่พระองค์ทรงรัก

อ.เอกวิทย์ เล็กวิริยะกุล (ที่มาของบทความ: www.pastors.com)