“พระเยซูตรัสด้วยเสียงอ่อนหวาน” บทเพลงชีวิตคริสเตียน 313 (จีน 292)

วันนี้ พระเยซูเชิญชวนคุณให้เชื่อศรัทธาในพระองค์ พบชีวิตที่มีความสุขนิรันดร์ ผ่านบทเพลงนี้ พระองค์เชิญชวนว่า “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านได้หยุดพัก หายเหนื่อย เป็นสุข” (มัทธิว 11:28) พระองค์เชิญชวนอีกว่า “ผู้ที่ดื่มน้ำ..จะกระหายอีก แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:13-14) พระเยซูยืนยันว่า “ถ้าใครฟังคำของเราและวางใจ.. คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ถูกพิพากษา แต่ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว” (ยอห์น 5:24)

คุณวิลทอมสัน (Will Lamartine Thompson 1847-1909) แต่งเพลงนี้ในปี 1882 เขาฉายแววดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น เขาแต่งเพลงหลายเพลงก่อนจบมัธยมปลาย ในสมัยนั้นไม่ค่อยมีคนมีโอกาสเรียนวิทยาลัย แต่คุณวิลทอมสันเรียนจบปริญญาตรีบริหารธุรกิจจาก Alliance College ที่โอไฮโอ จากนั้นยังได้จบดนตรีจาก New England Conservatory of Music และเรียนดนตรีที่ Leipzig ประเทศเยอรมันด้วย ช่วงแรกๆ เขาก็ทำงานด้านดนตรี แต่ผลตอบแทนไม่เหมาะสม เขาจึงหันไปทำธุรกิจ จากนั้นเขาก็เริ่มร้านธุรกิจดนตรีที่ลิเวอร์พูลเชื่อมกับธุรกิจของคุณพ่อ และก็หันไปทำธุรกิจไปรษณีย์ ขายบทเพลง ขายหนังสือเพลง เป็นต้น เขาประสบความสำเร็จในอาชีพ

คุณวิลทอมสันเป็นคริสเตียน ครั้งหนึ่ง เขาไปร่วมงานประกาศของดีแอลมูดี้ เขาตัดสินใจอุทิศชีวิตที่จะเขียนเพลง และส่งเสริมดนตรีคริสเตียน เขาเขียนเพลงนี้ Softly and tenderly และโด่งดังมาก มีการใช้เพลงนี้ในการเชิญชวนในงานประกาศเสมอ รวมเข้าไปในบทเพลงนมัสการ เมื่ออาจารย์มูดี้ ป่วยที่โรงพยาบาลใกล้เสียชีวิต คุณวิลทอมสันไปเยี่ยมท่าน อาจารย์มูดี้พูดกับคุณวิลทอมสันว่า “คุณวิล ผมอยากเขียน softly and tenderly Jesus is calling มากกว่าอย่างอื่นที่ฉันสามารถทำตลอดชีวิตของฉัน” คำพูดนี้สะท้อนชัดว่า บทเพลงนี้มี้ “ความหมายจับใจ เชิญชวนอย่างจริงใจ”

เนื้อเพลงข้อ 1 เขานำเสนอความจริง ที่พระคัมภีร์ยืนยันว่ามีชีวิตนิรันดร์แน่นอน เขาตั้งคำถามในข้อ 2 ว่า “เหตุใดท่านรีรอ ไม่ยอมรับพระเมตตา” อะไรเป็น “เส้นผมบังภูเขาของคุณ” ดึงเส้นผมเส้นนั้น แล้วคุณจะเห็นสัจธรรม เขาเตือนสติในข้อ 3 ว่า รีบตัดสินใจเถิด เพราะเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจเชื่อพระเยซูคริสต์ในวันนี้ มีผลตั้งแต่วันนี้ถึงนิรันดร์

ผมเองก็สัมผัสถึงความ “รวดเร็ว” ของชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ 20 ตุลาคม 2018 ผมประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ เสี้ยววินาทีเดียว ชีวิตตายได้จริง ผมพบว่าชีวิต “เปราะบางเหมือนต้นหญ้า วันนี้งดงาม พรุ่งนี้ก็เหี่ยวแห้ง” “ชีวิตเหมือนเงา เหมือนเสียงลมหายใจ แป๊บเดียวเอง” (สดุดี 90:5-6, 9) ทำอะไรก็รีบทำ ก่อนสายเกินไป เราทุกคนต้องการรอดพ้นจาก “กฎแห่งกรรม” ไปสู่สิ่งที่ดีเลิศ คือ “ชีวิตที่มีความสุขนิรันดร์” พระเยซูยืนยันว่า มีทางเดียวที่จะรอดได้ คือ เชื่อในพระเยซู เพราะพระองค์ รับ “โทษบาปกฎแห่งกรรมแล้วในพระองค์ที่กางเขน” แล้ว ผู้ใดที่เชื่อวางใจในพระองค์ ผู้นั้นจะไม่พินาศ แต่กลับมีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16, ยอห์น 14:6, กาลาเทีย 3:13, โคโลสี 2:14, 1 เปโตร 2:24)

ศจ.ดร.อภิชาติ พูลศักดิ์วรสาร